Saturday, July 6, 2024

รู้จักธุรกิจ STARTUP แบบเจาะลึก

 16 ม.ค. 2566 14:19 น.    เข้าชม 553    Entrepreneurship
รู้จักธุรกิจ STARTUP แบบเจาะลึก

“STARTUP” ธุรกิจมาแรงแห่งยุค! ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้า แต่กว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้จะต้องก่อร่างสร้างองค์กรอย่างไร ประกอบด้วยสมาชิกที่มีคุณลักษณะใด ไปเจาะลึกกับธุรกิจ STARTUP กันเลย!

 

สตาร์ตอัพคืออะไร?

 

สตาร์ตอัพหรือวิสาหกิจเริ่มต้น  คือธุรกิจเกิดใหม่ ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยจะต้องมีองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ Repeatable สามารถนำผลิตภัณฑ์หรือบริการไปทำซ้ำกับพื้นที่อื่นๆ ได้ Scalable ธุรกิจขยายตลาดได้โดยง่าย และ Growth สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

 

สมาชิกในทีมของสตาร์ตอัพ ประกอบด้วยใครบ้าง? 

 

หลักๆ ประกอบด้วยบุคลากร 4 ส่วน ได้แก่ CEO หรือ Chief Executive Officer คือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นคนคอยดูภาพรวมขององค์กร CTO หรือ Chief Technology Officer คือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี คอยดูด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สร้างขึ้นมา CMO Chief Marketing Officer คือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ดูด้านการตลาด การเข้าถึงลูกค้า หรือโปรโมชั่นของสินค้าและบริการ คนที่ 4 ได้แก่ COO หรือ Chief Operating Officer คือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ คนที่คอยดูแลหลังบ้านของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน หรือธุรกิจให้ลื่นไหล

 

คุณลักษณะ 3H ของคนทำธุรกิจสตาร์ตอัพ

 

3H คืออะไร มีอะไรบ้าง Hustler Hipster และ Hacker 3 คำนี้คือคุณลักษณะที่คนทำธุรกิจสตาร์ตอัพต้องมี Hustler คือ คนที่ดูแลด้านธุรกิจ โครงสร้างธุรกิจ กล้าที่จะเข้าหาโอกาสใหม่ๆ นำเสนอผลงาน เข้าหานักลงทุน แหล่งเงินทุนเพื่อมาสนับสนุนธุรกิจให้เดินหน้าไปได้ หรือ เทียบเคียงกันก็คือเป็นคุณสมบัติของคนเป็น CEO นั่นเอง  Hacker คือ นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ โปรแกรมเมอร์พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เกิดขึ้นใช้งานได้จริง เทียบเคียงได้กับ CTO และ Hipster คือ นักออกแบบ นักการตลาด สื่อสารสร้างสรรค์ให้ผลิตภัณฑ์น่าสนใจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ เทียบเคียงกับ CMO

 

การหาแหล่งเงินทุนสำหรับสตาร์ตอัพ

 

ปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาการเติบโตของสตาร์ตอัพ ซึ้่งมีอยู่ 4 Stages ได้แก่ Stage1: Idea แหล่งเงินทุนที่มาจากคนใกล้ชิด หรือเป็นเงินทุนส่วนตัวของตนเอง หรือการไปนำเสนอไอเดียผ่านการ Pitching โดยจะได้รับเงินทุนสนับสนุนจาภาครัฐ Stage2: Early เมื่อธุรกิจเริ่มสร้าง MVP Product หรือ Minimum Value Product คือ ผลิตภัณฑ์เริ่มต้น ขึ้นมาทดลองใช้งาน ทดลองตลาด หากสินค้าหรือบริการ มีไอเดียเป็นที่น่าสนใจ จะมี Angel Investor เข้ามาให้เงินทุน สนับสนุน Stage3: Growth เป็นระดับที่สตาร์ตอัพมีการขยายบริษัทให้มีความสามารถสูงขึ้น นักลงทุนที่เข้ามาร่วมลงทุน Stage นี้เรียกว่า Venture Capital (VC) หรือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน ค่อนข้างได้ทุนเยอะมากกว่า Early Stage แต่จะมีข้อผูกมัดพันธสัญญาในการทำธุรกิจมากกว่า สุดท้าย Stage 4: Exit ซึ่งเป็นที่ต้องการของเหล่าสตาร์ตอัพ คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้แล้ว สถานะจะเปลี่ยนไปจากสตาร์ตอัพกลายเป็นบริษัทมหาชน 

 

ที่มาของข้อมูล:  NIA (National Innovation Agency, Thailand

 


Comment